วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ย้อนรอยตลาดหุ้นปีนี้ ฟันธงปีใหม่2023 แง้มโผหุ้นเด่น10เด้ง:เชิญขึ้นรถด่วนขบวนสุดท้าย


Market Round up 2022 Outlook 2023:The year of recovery by ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด

ณัฐวุฒิ Live - Market Roundup 2022 Outlook 2023 (ตอนที่1):หักปากกากูรู
ย้อนรอยตลาดหุ้นไทยปีนี้ เป็นปีแห่งความสับสนอลหม่าน ข่าวร้ายข่าวลบกดดัน ทั้งจากสงครามที่ระเบิดตอนต้นปี กูรูชี้จะบานปลายเป็นสงครามนิวเคลียร์ล้างโลก พอพ้นมาได้ก็เจอวิกฤตเงินเฟ้อ ผวาศก.ถดถอย จนโดนกูรูเขย่าขวัญว่าเศรษฐกิจจะพินาศตลาดหุ้นจะล่มสลาย แต่ในที่สุดก็ผ่านมาได้ ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น
ดูรายละเอียดตามคลิปครับ

….
ณัฐวุฒิ Live - Market round up 2022 Outlook 2023 (ตอนที่ 2) : 5 ข่าวเด่นตลาดหุ้นปีนี้
*ตลาดเผชิญมรสุมข่าวร้าย แต่แค่ร่วงปรับฐาน ไม่ถึงขนาดล่มสลายดังคำพยากรณ์กูรู /เพราะกองทุนฝรั่งช้อนซื้อเฉียด2แสนล้าน เนื่องจากวิกฤตกลายเป็นโอกาสสำหรับตลาดหุ้นไทย / ข่าวTRUE ควบDTACกลายเป็นดราม่าขนาดยาว /เก็บภาษีหุ้น และการเมืองเรื่องเลือกตั้งยังจะส่งผลสะเทือนข้ามถึงปีหน้า
*เจาะกองทุนตราสารหนี้&ทองคำรองรับภาวะเศรษฐกิจถดถอยอ่อนๆในปีหน้า แต่ถ้าเชื่อว่ารับเต็มคาราเบลแล้วเชิญช็อปกองเวียดนาม&จีน
รายละเอียดคลิกชมคลิปเลยครับ

….
ณัฐวุฒิ Live - Market round up 2022 - Outlook 2023(ตอนที่3) เผาจริงหรือเผาหลอก?
มาดูสถิติในอดีตกัน...
สถิติจากปี1928ถึง2021 ชี้ว่า มีโอกาสน้อยกว่า10%ที่ตลาดหุ้นสหรัฐจะตกหนักติดต่อกัน2ปี แต่มีโอกาสถึง17ใน25ปีที่หลังจากตกหนักแล้วพลิกกลับมาบวก และหุ้นขึ้นเฉลี่ย12.6%
อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีก็ทีลดลงติดต่อกันหลายปีได้เช่นกัน โดยมีสาเหตุมาจากเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ระหว่างปี 1929 และ 1939 หรือผลกระทบทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น สงครามโลกครั้งที่สอง และวิกฤตการณ์น้ำมันในปี 1972 หรือทั้งสองอย่าง ในกรณีของต้นทศวรรษ 2000 เมื่อฟองสบู่ดอทคอมแตก 11 กันยายน 2001 การโจมตีของผู้ก่อการร้าย และการรุกรานอิรักของสหรัฐฯ ในเวลาต่อมา
แล้วปีหน้านี่หละ จะฟื้นตัวตามสถิติส่วนใหญ่ หรือเป็นปีที่ยกเว้น รายละเอียดฟังผมเปิดเผยข้อมูลในคลิปนี้นะครับ

ณัฐวุฒิ Live - Market Round Up 2022 Outlook ปีใหม่2023(ตอนที่4):ปัจจัยใหม่ตลาดหุ้น
*ปัจจัยภายนอก สงครามยูเครนดำเนินต่อปีที่2แต่ไม่บานเป็นสงครามโลก
*เศรษฐกิจเมกาGDPติดลบ แต่ยังไม่ครบสูตรถดถอย ขณะที่ตลาดหุ้น&ตลาดเงินซับปัจจัยลบไปล่วงหน้าแล้ว เผลอๆจะเด้งขึ้นรับSoft Landing
*จีนคลายโควิดส่งผลเศรษฐกิจไทยกระเตื้อง
*ปัจจัยภายในเลือกตั้งกลางปีหน้า มองหาหุ้นRlection Rally และหุ้นที่จะพุ่งรับนโยบายศก.รัฐบาลใหม่
รายละเอียดคลิกชมคลิปนี้เลยครับ

ณัฐวุฒิ Live - Market Round Up 2022 Outlook 2023 (ตอนที่5):แง้มโผหุ้นเด่นปีใหม่
ดัชนีตลาดหุ้นไทยได้ใช้เวลาพักทำฐานคลื่น3พัก4มานานกว่า2ปีแล้ว ก็เป็นไปได้มากว่าจะเกิดการแรลลี่ขึ้นไปคลื่น5ที่อาจกลับไปเขต1850หรือAll time high ในปี2023 ได้ครับ
หุ้นที่จะโดดเด่นในรอบปีใหม่นี้ ที่เปิดตัว 5 หุ้นเด่นชุดแรกสำหรับท่านที่สั่งซื้อคู่มือตลาดหุ้นปีใหม่ ในวันนี้ ประกอบด้วย
*เป็นหุ้นใหญ่ในSET50มากกว่าจะเป็นหุ้นขนาดเล็กในMAIครับ หุ้นที่กองทุนฝรั่งจะกลับมาเทรด จะโดดเด่นกว่าหุ้นที่ขาใหญ่คุมราคาครับ
*หุ้นใหญ่(ในSET50/SET100)ตัวไหนที่จะเริ่มกลับมากำไรดีเท่ากับก่อน COVID แต่ราคาหุ้นยังต่ำกว่าช่วงก่อนCOVIDมากๆ เป็น หุ้น การเงิน/การท่องเที่ยว/ค้าปลีกค้าส่ง
*หุ้นที่กองทุนฝรั่ง กองทุนไทยจะกลับมาเทรดตามรอบวัฏจักรของมัน อย่างพวกพลังงาน หุ้นDefensiveที่แย่มานานตั้ง3ปี ผมคัดมาในฐานะที่จะกลับมามีกำไรโดดเด่นในปี2023
*หุ้นเทคโนโลยีที่จะฟื้นตัวตามกระแสการรีบาวนด์ของหุ้นเทคในสหรัฐ และเอเชีย ผมมองว่าหุ้นอย่างนี้ได้ผ่านจุดต่ำสุดของรอบไปแล้ว และกำลังจะกลับฟื้นขึ้นไปรอบใหม่ ในเวลานี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของรอบวัฏจักรขาขึ้นเที่ยวใหม่ครับ
*หุ้นอิงการเมือง อิงเรื่องการเลือกตั้งที่จะเป็นสีสันจัดจ้าน ผมมองว่า ใครชนะการเลือกตั้งก็ต้องตามมาด้วยmega projectใหญ่ ทำให้ตกอยู่ในจุดสป็อตไลต์ที่น่าสนใจเก็งกำไร นอกเหนือไปจากนั้นก็ยังเป็นxxxที่อาจจะยังโดดเด่นต่อไป
*หุ้นGrowth storyขนาดเล็กหรือกลางที่ยังมีโอกาสไปได้ดี และมีเทิร์นอะราวนด์ลุ้นกลับมาจ่ายปันผลได้ดี เป็นตัวเลือกที่น่าลงทุนและเก็งกำไร...
รายละเอียด และรายชื่อ ทั้งหมดจะบรรจุอยู่ในคู่มือตลาดหุ้นไทยปี 2023 นะครับ

https://youtu.be/25BmqmwBszU
ณัฐวุฒิ Live30ธ.ค.:ประกาศเรียกขึ้นรถครั้งสุดท้าย ก่อนกระทิงใหญ่มาเยือน
*Final call เรียกขึ้นรถด่วนขบวนสุดท้ายก่อนตลาดจะกระทิงวิ่งรับปีใหม่ ฟันธงเป้าหมายตลาดคลื่น5 ที่กำลังมา
* แง้มโผหุ้นเด่น10เด้ง
*หุ้นที่จะมากับThemeเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวจีนเต็มไม้เต็มมือ
*หุ้นที่ยังถูกกว่าพื้นฐานอยู่มากกว่าเท่าตัว และจะได้ผลบวกจากCOVID คลี่คลาย
*หุ้นการเมืองที่จะเหวี่ยงแรงรับการเลือกตั้ง Election Rally
*หุ้นดีราคาติดพื้นเพราะฝรั่งยังไม่เข้า แต่ถึงรอบที่จะมา อิงเมกะโปรเจคท์รับเลือกตั้ง
*หุ้นที่จะคว้างานประมูลใหญ่เปลี่ยนชีวิตก้าวกระโดด แต่ราคาเวลานี้ยังเพิ่งแค่เตรียมขยับ
*หุ้นที่จะฟื้นตัวตามภาวะศก โลกจะเจอแค่เพียงMild Recession แต่ราคามันจะเหินฟ้า
*หุ้นเล็กดีรสโตครบเครื่องเรื่องเทิร์นอะราวนด์ เติบโตเด่น ปันผลน่าตื่นตา
รายละเอียดดูในคลิปเพิ่มเติมนะครับ
…เชิญขึ้นรถด่วนขบวนสุดท้ายก่อนกระทิงมาเยือนปีใหม่ 2023

รับทันที .. หุ้นเด่น 5 ตัวแรก ⁉️
ชุด 📗 คู่มือ ตลาดหุ้นไทย 2023
🎁 แพ็คเกจ A แถม ..
3 รายการ คือ
1. สัมมนา 10 หุ้นเด่น
ในวันอาทิตย์ที่ 1 มค.66
เวลา 13.00-17.00 น.
2. ปฏิทิน ตลาดหุ้นไทย
ประจำปี 2023
3. ปรึกษาปัญหาหุ้น รายตัว
วันละ 1-2 คำถาม/ท่าน/วัน
ช่วง 2-31 มค.66
🎁 แพ็คเกจ B แถม ..
2 รายการ คือ
1. สัมมนา 10 หุ้นเด่น
ในวันอาทิตย์ที่ 1 มค.66
เวลา 13.00-17.00 น.
2. ปฏิทิน ตลาดหุ้นไทย
ประจำ ปี 2023
โดยท่านที่จอง แพ็คเกจ A-B
จะได้รับหุ้นเด่น พร้อมกัน
❤️ ชุดแรก 5 ตัว .. รับทันที ‼️
ในกรุ้ป 📗 คู่มือตลาดหุ้นไทย
ปี 2023
❤️ ชุดสอง 5 ตัว
รับวัน อาทิตย์ที่ 1 มค.66
ท่านจะได้รับ 📑 ไฟล์ PDF คู่มือตลาดหุ้นไทย ปี 2023 พร้อมกัน ในวันที่ 2 มค.66
แบบเล่ม 📗 ทีมงานฯจะจัดส่งทางไปรษณีย์ ให้ทุกท่าน พร้อมกัน ในราวกลางเดือน มค.66
วิธีสั่งจอง 📗 คู่มือตลาดหุ้นไทย ประจำปี 2023
1.ชำระเงิน เลือกกรุ้ป
A 3,898.-บาท
B 2,898.-บาท
ผ่านธนาคาร กสิกรไทย
เลขที่บัญชี 735-2-38116-5
ชื่อบัญชี บริษัทหลักทรัพย์
ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธาร
คอร์ปอเรชั่น จำกัด
2.โปรดแจ้งข้อมูลของท่านให้ครบถ้วนดังนี้นะคะ
ชื่อ สกุล ภาษาไทย
เบอร์มือถือ
ID LINE
ชื่อLINE
ชื่อFacebook
E-Mail
ที่อยู่ และ รหัสไปรษณีย์
เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน
อายุ
อาชีพ
ประสบการณ์การลงทุน
3.ส่งหลักฐานการชำระเงินของท่านมาที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้นะคะ
😊สอบถามเพิ่มเติมได้ที่นี่นะคะ

ความเป็นอนิจจังของตลาดหุ้น และ 4 คำอันตรายที่สุดในการลงทุน ยิ่งกว่าคำว่า"รู้งี้"

ความเป็นอนิจจังของตลาดหุ้น-อยู่ไปอยู่มา ผมก็อยู่กับตลาดหุ้นมาเกือบจะ30ปี ทั้งที่เคยเกลียดมันมาก เพราะอยู่มาค่อนนาน เลยได้พบพานสารพัดวิกฤตที่โถมใส่ตลาด
เราเคยอกสั่นขวัญผวาว่าสงครามอ่าวจะกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่3ล้างผลาญมวลมนุษยชาติ
เคยหวาดผวาว่าY2Kปี2000จะทำให้มีการกดปุ่มหัวรบนิวเคลียร์อัตโนมัติ ทำให้โลกย่อยยับเป็นผุยผง
เราเคยเจอฟองสบู่แตกปี40ที่ผมเองก็ต้องไปเปิดท้ายขายของ เจอวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ที่หลายคนทึกทักว่าคืออวสานของทุนนิยมสามานย์
เราเคยผ่านความpanicน้ำท่วมใหญ่ ต้องเอารถขึ้นไปจอดบนทางด่วนหนีน้ำ ร้านรวงต่างๆสินค้าเกลี้ยงเชลฟ์เพราะคนแห่ซื้อของไปตุน
เราผ่านการจลาจลการชุมนุมประท้วงที่เหมือนจะทำให้ประเทศไทยหายไปจากแผนที่โลกมานับหนไม่ถ้วน
เราเจอวิกฤตโรคซาร์ ไข้หวัดนก วัวบ้า เมอร์ส H5N1มายันCOVID-19 ตอนนี้เป็นยุคเงินเฟ้อเขย่าโลก และวิตกจริตสงครามนิวเคลียร์ล้างโลก
ทุกวิกฤตเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปในท่ามกลางกาละเวลา มีคนจำนวนมากมหาศาลสิ้นเนื้อประดาตัวล้มหายตายจากไปจากตลาดหุ้น มีอยู่หยิบมือที่ผ่านวิกฤตการณ์มาเล่าในภายหลังว่าพวกเขากลายเป็นเจ้าของพอร์ตพันล้านในวันนี้ได้อย่างไร
เมื่อมองย้อนกลับไป ก็ได้แต่ขำตัวเอง เหมือนหลายเรื่องที่เราเคยเจอกันมาว่า ทำไมในวันนั้นเราจึงได้หวาดผวาจนเกินสัดส่วนของความเป็นจริงมากเกินไป แนวๆแบกโอ่งแดงหนีไฟไหม้บ้าน อะไรทำนองนั้นแหละครับ....นั่นก็เพราะเรื่องราวมันได้ผ่านพ้นไปเป็นอดีตไปแล้ว
และเราก็ได้แต่บอกกับตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าว่า "รู้งี้"นะเราจะทำอย่างนั้น ไม่ทำอย่างนี้ และเราก็คงกลายเป็นเจ้าของพอร์ตพันล้านในวันนี้แล้ว แทนที่จะหมดตัวกับมัน
หรือเป็นได้แต่เพียงผู้สังเกตการณ์
คนมักชอบพูดว่า วิกฤตการณ์ครั้งนี้ต่างไปจากครั้งก่อนๆ แต่จากที่ผมเจอมามากนั้น คำกล่าวนี้ไม่จริง ทุกวิกฤตการณ์นั้นมีpatternที่เหมือนกัน มีimpactต่อตลาดเหมือนกัน คลี่คลายขยายตัวไปในทำนองเดียวกัน และมีผลต่อผู้เล่นในตลาดเหมือนเดิม ราวกับเป็นวงจรวัฏจักร
ผมเคยสร้างโมเดลนี้ไว้ และเผยแพร่ในระยะ20ปีเศษมานี้ หลายคนนำไปประยุกต์ใช้ก็บอกว่าได้ผลดี แต่ก็ยังมีข้อกังขาว่า รอบนี้ไม่เหมือนเดิม ต่างไปจากวิกฤตเที่ยวก่อน (ดูลิ้งค์โมเดลสร้างสรรค์เชิงทำลายในตลาดหุ้นไทย หลากหลายกรณีศึกษา http://thailworld.blogspot.com/2016/02/creative-destruction-model.html )
ผมจึงว่าความเป็นอนิจจังในตลาดนั้นก็ไม่ต่างไปจากเดิม มีขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปเหมือนเดิม
อันเป็นปกติแห่งโลกสงสาร สังสารวัฏธรรมดา
....
อ้างอิง:ยิ่งกว่าหมีก็สล็อธนี่หละแก ใครชอบแนวๆหุ้นตกโลกแตกเศรษฐกิจล่มสลาย ไม่ต้องอ่านคำนายสายทฤษฎีสมคบคิดที่ผิดซ้ำซากกันต่อไป Bloomberg เขาจัดให้ อ่านกันตาแฉะไปโลด https://www.bloomberg.com/graphics/2023-investment-outlooks/?fbclid=IwAR1WSUaByPhzhOC2ivohCPSZJUqaSCkmAihKazGPdQK724aLw0EGenxFA_M&sref=Hez1YhZz

เรื่องเกี่ยวเนื่อง; 4 คำอันตรายที่สุดในการลงทุน กับ
10 เรื่องความลับจิตวิทยามวลชนในตลาดหุ้นที่คุณไม่รู้
1.นอกจากปัจจัยข้อมูลข่าวสาร พื้นฐานแล้ว ปัจจัยจิตวิทยามีอิทธิพลขับเคลื่อนตลาดหุ้นมากกว่า 80% อีก20%คือพื้นฐาน
2.ในปัจจัยทางจิตวิทยาฝูงชนที่ขับเคลื่อนตลาดนั้น ประกอบด้วยความกลัว กับความโลภ แต่ความกลัวมีอิทธิพลในการขับเคลื่อนตลาดมากกว่าความโลภ คนรักตัวกลัวตายมากกว่าอยากได้ใคร่มี
3.มวลชนในตลาดที่เป็นพวกRisk loverนั้นมีน้อยกว่าพวกรักตัวกลัวตาย คนจึงยินดีที่จะรีบขายหมูทันทีที่มีกำไร และยอมติดหุ้นจนแทบจะหมดตัว
4.กูรูสายหุ้นตกโลกแตกเศรษฐกิจพินาศ แนวๆพระบิดาโชเพนฮาวเออร์นั้น จะมีอิทธิฤทธิ์ต่อตลาดมาก เนื่องจากจิตวิทยามวลชนในตลาดหุ้นนั้น ความกลัวหรือการเป็นผู้มองโลกแง่ร้าย(pessimism)มีแรงขับเคลื่อนมากกว่ามวลชนที่มองโลกสวย(optimism)
5.กูรูสายโลกร้าย pessimism นั้นคิดว่าพวกเขาเกิดมาเพื่อจะเป็นนอสตราดามุสในตลาดหุ้น คือหากถูกขึ้นมาซักที พวกเขาก็อาจจะปังเปรี้ยงแบบตำนานThe big short แต่หากไม่ถูก หรือผิดไปเรื่อย ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะมวลชนคนpessimism ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้สนใจหรอกว่าผิดหรือถูก พวกเขาแค่อยากฟังในสิ่งที่พวกเขาเชื่อ ส่วนกูรูถ้าผิด ก็เพียงแต่ผลิตคำทำนายใหม่ แล้วก็แชร์วนไป
6.เป็นความจริงที่ว่าคนส่วนใหญ่ไม่เคยถูก หากคนส่วนใหญ่เชื่อว่ากำลังจะเกิดหายนะในตลาด มันก็จะไม่เกิดหรอก เพราะคนเฝ้าระวังตัวแจ แต่ที่เกิดหายนะพินาศนั้น ส่วนใหญ่คนก็ไม่ได้ระวังตัว แต่กำลังเพลินโลภมากอยู่ต่างหาก
7.เป็นความจริงที่เซอร์เทมเพิลตัน และวอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยกล่าวอมตะวาจาไว้ว่า จงกลัวในเวลาที่คนทั้งตลาดโลภ และจงกล้าในเวลาที่คนทั้งตลาดกลัว แต่คนที่คิดและทำแบบนี้ได้มีอยู่เพียงซัก5%ในตลาดเท่านั้น
8.อ้างจากเซอร์เทมเพิลตัน และดร.มาร์ค โมเบียสที่กล่าวว่า 4 คำที่อันตรายที่สุดในการลงทุนคือ This time is different ”ครั้งนี้ แตกต่าง จาก ครั้งอื่นๆ” https://www.markmobius.com/.../this-time-its-different...
ทั้งที่ความจริงแล้ววิกฤตการณ์ หรือรูปแบบของตลาดมันมักจะเหมือนที่เคยเกิดมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะจิตวิทยาฝูงชนในตลาดชี้นำพฤติกรรมซ้ำๆที่สามารถพยากรณ์ได้ แต่เพราะจิตวิทยาที่โลภหรือกลัวเกินเหตุ ทำให้นักลงทุนพยายามทำในสิ่งที่ต่างออกไป และส่วนใหญ่ก็มักจะล้มเหลว
9.คนมักพูดกันว่าเวลาเกิดเหตุวิกฤต มันจะกวาดเรียบให้ทุกคนหายนะกันหมด ดังนั้นจงรักตัวกลัวตายเก็บคองอเข่ายามวิกฤติ แต่ในความจริงทุกวิกฤตการณ์มีรูปแบบ แพตเทิร์นคล้ายคลึงกับที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน หากคุณเข้าใจข้อนี้ก็อาจสร้างโมเดลพลิกวิกฤติเป็นโอกาสรวยหุ้นได้ แทนที่จะหมดตัวไปในวิกฤติ (http://thailworld.blogspot.com/.../creative-destruction...)
10.น่าแปลกที่ว่า ปัจจัยทางจิตวิทยามวลชนมีผลต่อตลาดหุ้นอย่างยิ่งยวด แต่คนรู้เรื่องนี้น้อยที่สุด(หากเทียบกับเรื่องพื้นฐาน การดูกราฟ การจัดพอร์ต) รายละเอียดทั้งหมดที่ว่ามานั้น มีในเล่มนี้ ความลับที่4 จิตวิทยามวลชนในตลาดหุ้น
คุณได้ค้นพบมันหรือยัง?

คำพยากรณ์กูรูแนวโลกแตก ศก.พินาศ ตลาดหุ้นล่มสลาย และผลลัพธ์ :ยังเป็นอีกปีที่ไม่มีอะไรในกอไผ่



เนื่องจากคำพยากรณ์ของกูรูบางท่านนั้นมีคนดูคนฟังคนอ่านมหาศาล และการกระจายแชร์แพร่ต่อก็มากมาย เพราะฟังดูแล้วชวนตื่นเต้นเขย่าขวัญว่าโลกจะแตก เศรษฐกิจจะพังพินาศ ตลาดหุ้นจะล่มสลาย....เอากันแบบแฟร์ๆคือ มาดูว่าผลลัพธ์นั้นแม่นหรือไม่แม่น....เชิญพิสูจน์กันเลยครับ

1.คำพยากรณ์เมื่อ 13 มิถุนายน 2559 "ขณะนี้ คลื่นลูกแรกของ “supernova” เดินทางมาถึงแล้วส่วนคลื่นแม่ที่ใหญ่กว่าจะมาในกลางปีหน้า 2560 .. ฟองสบู่ตลาดหุ้นเป็นSuper Bubbleไปเรียบร้อยแล้ว" (ดูลิ้งค์
https://www.facebook.com/251902048251841/posts/908390385936334/ )

ผลลัพธ์ : ดัชนีดาวโจนส์ตอนนั้น 17,000 จุด ตอนนี้35,000 จุด คือขึ้นมาเกิน 100 % และไม่ได้ไม่เกิดวิกฤตในปี2560แต่อย่างใด

2.คำพยากรณ์ 30 มิถุนายน 2559 "รีบซื้อทองคำ...ก่อนที่คนทั้งโลกจะพร้อมใจกันแห่มาซื้อ(ก่อนเกิด Super Nova)จะขึ้นไปอีก5เท่า"(ดูลิ้งค์ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=917607768347929&substory_index=0&id=251902048251841 )

ผลลัพธ์:ช่วงนั้นทองคำโลกอยู่ที่1340$ ปลายปีนั้นตกมาที่1,120$ ปัจจุบันนี้1800$ หรือขึ้นมา35%หลังคำพยากรณ์ผ่านไป 6 ปี

3.คำพยากรณ์ 16 มิถุนายน 2563 :"ตอนนี้แค่เริ่มต้น เตรียมรับมือสึนามิการล้มละลายในไตรมาส 2-3/2563 มีโอกาสมากที่เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่Great Depression"พร้อมกันในช่วงของปี 2564 เพื่อไปสู่การล้มของระบบธนาคาร(ดูลิ้งค์ https://news1live.com/detail/9630000061988 )

ผลลัพธ์:ไม่มีสึนามิล้มละลายในไตรมาส2-3/2563 และโลกยังไม่ได้เกิด Great Depression จนถึงปัจจุบันนี้ แถมแบงก์กลับมามีกำไรเติบโตเกือบ75%ในงวด 9เดือนแรกปีนี้ทั้งในไทยและต่างประเทศ

4.คำพยากรณ์ 6 ตุลาคม 2564 "มาถึงแล้วคลื่นวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในรอบ 100 ปี ไตรมาส2-3ปีหน้า 2565 " (ดูลิ้งค์ https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000099193 )
ผลลัพธ์:ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

5.คำพยากรณ์ 28 เมษายน 2565 "ปี2565 จะทำให้วิกฤตเศรษฐกิจที่เคยเกิดขึ้นในปี2540 เป็นอดีตที่ถูกลืม" ( https://www.facebook.com/watch/live/?ref=watch_permalink&v=287693706901441 )

ผลลัพธ์
:ไม่มีวิกฤตใหญ่กว่าปี2540เกิดขึ้นแต่อย่างใด

6.คำพยากรณ์ล่าสุด 26 ธันวาคม 2565 "Welcome to the second phase of the Great Reset.-ยินดีต้อนรับสู่เฟส2ของการรีเซ็ตครั้งใหญ่" ( https://www.facebook.com/100044306025558/posts/715799896573538/?mibextid=cr9u03 )

ผลลัพธ์: ผมขอพยากรณ์แม่นๆว่า ก็ยังจะไม่มีอะไรที่เป็นวิกฤตใหญ่เกิดขึ้น แต่เราจะได้รับคำพยากรณ์ที่ช็อกกว่า 6 ข้อข้างต้นตามมาอีก เพียงแต่เวลาที่เศรษฐกิจโลกแตก หรือทองคำขึ้นไป 5 เท่า ก็จะถูกเลื่อนออกไปอีก
...
หมายเหตุ:ผมก็ไม่ถึงกับเป็นแนวโลกสวยอะไรหรอกครับ นานๆทีผมจะพยากรณ์แนวๆนี้ไว้ที แต่บอกเหตุบอกผลชัดเจน โดยได้เคยพยากรณ์ไว้ในปลายปี2558 และปี2561 ว่า จะเกิดฟองสบู่แตกหุ้นอเมริกาตก หุ้นโลกร่วงจะเกิดขึ้นในราวปี 2563 ตามรอบวัฏจักร และเหตุผลธรรมดาๆมาก ไม่มีอะไรดราม่าใหญ่โตซักเท่าไหร่(ดูลิ้งค์ https://www.facebook.com/201699573207648/posts/4804054339638792/?d=n ) ผลลัพธ์ทุกท่านก็ประจักษ์มาแล้วว่าเป๊ะมาก

แต่เรื่องอย่างนี้ไม่ได้เกิดกันบ่อยๆนะครับ หากพยากรณ์กันไปเรื่อยเปื่อย ผิดก็เฉย ไม่เคยขอโทษ แล้วก็ผลิตคำพยากรณ์กันมาใหม่ๆ คนอ่านคนดูคนฟังก็ช่างกระไร เห็นแล้วก็ยังพากันแชร์วนไป แล้วก็วิตกจริตคิดกลัวตาย เลยพากันกอดคองอเข่าไม่กล้าค้าขายไม่กล้าลงทุนอะไรใหม่ๆ กระทบต่อธุรกิจเศรษฐกิจให้ชะงักงันเป็นลูกโซ่

แบบนี้น่ากลัวว่าจะพากันอดตาย ก่อนโลกจะแตก เศรษฐกิจจะล่มสลาย ตลาดหุ้นจะพินาศตามคำพยากรณ์มากกว่าหละนะครับ...โดยที่บรรดากูรูที่พยากรณ์ผิดๆนั้น ก็ไม่เคยต้องมีบทลงโทษอะไร แม้แต่คำขอโทษซักคำก็ไม่มี

เราก็ต้องดูแลสร้างภูมิคุ้มกันให้พวกเราด้วยกันเองนะครับ
.....
ข่าวเกี่ยวเนื่อง:
ยิ่งกว่าหมีก็สล็อธนี่หละแก ใครชอบแนวๆหุ้นตกโลกแตกเศรษฐกิจล่มสลาย ไม่ต้องอ่านคำนายสายทฤษฎีสมคบคิดที่ผิดซ้ำซากกันต่อไป Bloomberg เขาจัดให้ อ่านกันตาแฉะไปโลด https://www.bloomberg.com/graphics/2023-investment-outlooks/?fbclid=IwAR1Q_AJMxWw1BQOZm9do083YLJiNsuazpud6h3w0w5u5y4Ua_reBVJgilhk&sref=Hez1YhZz

วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ณัฐวุฒิ Live - theme 10 หุ้นเด่น10เด้งปีใหม่ 2023


*เป็นหุ้นใหญ่ไม่ใช่หุ้นเล็ก
*เป็นหุ้นที่เจ้ามือกองทุนฝรั่งชอบ เช่น หุ้นเทค การเงิน พลังงาน Defensive
*เป็นกิจการที่กลับมากำไรเท่าก่อนตอนเกิดCOVID แต่ราคาถูกกว่าเป็นเท่าตัว
*เป็นหุ้นที่จะวิ่งรับเลือกตั้งElection rally
รายละเอียดคลิกชมคลิปนี้ครับ
..
By ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ เลขที่ใบอนุญาต12888
บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษการลงทุนต้นธารคอร์ปอเรชั่น
(ก่อตั้งพศ.2540อยู่ใต้การกำกับกลต.)
ติดตามเราช่องทางอื่นๆได้ที่
สอบถามข้อมูล
Line@ : https://goo.gl/ybfAvJ ....
สั่งจอง 📗 คู่มือ ตลาดหุ้นไทย ปี 2023
🎁 แพ็คเกจ A-B แถม ..
สัมมนา 1 มค.66
ปฏิทิน ตลาดหุ้นไทย ปี 2023
🎁 แพ็คเกจ A แถม ..
ปรึกษา หุ้นรายตัว 2-31 มค.66
โดยท่านจะได้รับหุ้นเด่น
❤️ ชุดแรก 5 ตัว จันทร์ที่ 19 ธค.65
❤️ ชุดสอง 5 ตัว อาทิตย์ที่ 1 มค.66
รับพร้อม สัมมนา เวลา 13.00-17.30 น.
ท่านจะได้รับ 📑 ไฟล์ PDF คู่มือตลาดหุ้นไทย ปี 2023 พร้อมกัน ในวันที่ 2 มค.66
แบบเล่ม 📗 ทีมงานฯจะจัดส่งทางไปรษณีย์ ให้ทุกท่าน พร้อมกัน ในราวกลางเดือน มค.66
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่นี่นะคะ

วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2565

เป้าหมายตกพักฐานและการฟื้นตัวกลับ หลังรู้ผลประชุมFED21กันยายน และกลยุทธ์การลงทุนByดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์

 By ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ เลขที่ใบอนุญาต12888

บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษการลงทุนต้นธารคอร์ปอเรชั่น
(ก่อตั้งพศ.2540อยู่ใต้การกำกับกลต.)
19 กันยายน 2565
1.ประเด็นที่ต้องติดตามคือ
*การประชุมFEDวันที่20-21กันยายนนี้ คาดขึ้นดอกเบี้ย0.75%(หากเป็นไปตามคาด หุ้นหยุดลงและฟื้น เพราะตกมาล่วงหน้าแล้ว หากดีกว่าคาดคือขึ้นแค่0.5% หุ้นขึ้นแรง หากลงมากกว่าคาด1%จะลงต่อ แต้ไมามาก เพราะตลาดได้ขานรับไปแล้ว่นกัน)
*ต่างชาตืกลับมาขายหุ้นไทย จากการที่ดัชนีFTSE REBALANCEเมื่ อวันศุกร์ก่อน ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนลงมานิวโลว์ที่37.10บาท อย่างไรก็ตามคาดส่าเป็นช่วงสั้น พอจบการทำrebalanceแล้วก็จะเริ่มกลับมาปกติตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หากค่าเงินบาทกลับแข็งขึ้น จะยืนยันสมมุติฐานนี้
2.แนวโน้มตลาดหุ้นไทย คาดว่ายังเป็นกา่รตกพักฐานในแนวโน้มขาขึ้น โดยพิจารณาจาก
*หุ้นขนาดใหญ่ในSET50ที่เป็นหุ้นยอดนิยมของกองทุนต่างประเทศและกองทุนไทย ซึ่งเคลืื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้น แต่ช่วงนี้ตกพักฐานลงมา จะพบว่าทำฐานราคา หรือจุดLowยกสูงขึ้น หากรอบนี้(LO6ตามภาพประกอบ)ลงมาไม่ลึกกว่าฐานที่ทำไว้รอบก่อน(LO5)คือเขต975 เป็นต้นว่าลงมาเพียงราวๆ980ไม่ลึกกว่า975 ก็จะเป็นการทำจุดต่ำสุดของการตกพักฐานเที่ยวนี้ราวๆนี้ จากนั้นก็จะฟื้นขึ้นไปในแนวโน้มขาขึ้น รอบหน้า(HI6ตามภาพ)ก็จะขึ้นไปทำนิวไฮราวๆเขต1008-1010จุด)
...ยกเว้นแต่ว่าลงมาเที่ยวนี้ ลงไปพังฐานLowเก่าลึกกว่าเขต975หรือ972จุด จึงจะถือว่าไม่ใช่เป็นการตกพักฐานในขาขึ้น แต่เป็นการพังฐานแล้วจะเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาลง
*ส่วนSETรวมนั้นเหมือนกับยหุ้นใหญ่ในSET50คือเป็นการตกพักฐานในแนวโน้มขาขึ้น หากฐานที่ตกลงมารอบนี้ไม่ลงไปพังฐานเก่าที่เคยทำไว้เขต1610จุด เป็นต้นว่าฐานของLoรอบนี้อาจจะเป็นตั้งแต่ 1630+/-ก็ได้ หรือ1620+/-ก็ได้ หรือ1615+/-ก็ได้ จากนั้นก็จะฟื้นกลับขึ้นไปตามแนวโน้มขาขึ้น โดยรอบหน้าก็จะมีนิวไฮเกินกว่าเขตไฮเก่าที่เคยทำไว้ราวๆ1672จุด โดนยอาจจะขึ้นไปตั้งแต่1680หรือ1700 หรือ1720+/-ก็ได้
3.สรุปความเห็น
*ตลาดรอบนี้ลงมาด้วยแรงกดดันจากความวิตกว่าFEDจะขึ้นดอกเบี้ยมากถึง1%ซึ่งจะทราบผลในคืนวันพุธนี้ ตลาดจึงชิงลงมาก่อน เมื่อทราบผลแล้วจึงจะฟื้่นตัวขึ้นได้ต่อไป
*สำหรับหุ้นไทยนั้น ให้ดัชนีSET50ที่กองทุนฝรั่งและกองทุนไทยนิยมซื้อขาย หากลงมาไม่ลึกกว่าฐานเก่าเขต975-972 เช่นอาจทำฐานยกสูงขึ้นมาเขต980-975 ก็แสดงว่าเป็นการตกพักฐานในขาขึ้นปกติ รอบหน้า หลังรู้ผลประชุมFEDก็จะกลับขึ้นไปทำนิวไฮเกินเขต1000จุด
*ส่วนดัชนีSETนั้น การตกมารอบนี้ อาจทำฐานยกสูงขึ้นมาเป็นตั้งแต่เขต1630หรือ1620 หรือ1615จุดก็ตาม หลังรู้ผลประชุมFEDแล้วก็จะฟื้นกลับขึ้นไปทำนิวไฮที่เกินกว่าเขต1672จุด อาจจะเป็นตั้งแต่1685/1700หรือ1720จุด+/- ทั้งนี้ยกเว้นแต่ลงมาพังฐานLowเก่าเขต1610+/- จึงจะถือว่าเป็นการเปลี่ยนทิศทางไปเป็นขาลง
ดังนั้น จึงแนะนำให้
3.1ถือหุ้น ตราบเท่าที่SETยืนเหนือเขต1610 หรือหากให้ดัควรทำฐานยกสูงขึ้นมาเป็นตั้งแต่เขต1630/1620หรือ1615 และถือไปรอขายรอบหน้าที่จะขึ้นไปตั้งแต่เขต1685/1700/1720จุด
3.2ช้อนซื้อหุ้นได้ตั้งแต่ระดับดัชนีSETเขต1630+/-หรือ1620/1615 เพื่อไปรอขายช่วงขึ้นไปรอบหน้า1685/1700/1720จุด
3.3ยกเว้นว่าSETทำท่าลงไปปิดลึกกว้่าเขตฐานเก่า1610+/-ลงไป จึงควรจะขายรักษาทุน หรือหันไปเปลี่ยนกลยุทะ์ด้วยการเทรดอิงขาลงต่อไป
....
บทเรียนประกอบ:ตลาดหุ้นตกพักฐานในขาขึ้นเป็นอย่างไร และเราควรใช้กลยุทธ์ Buy on weakness , Sell intostrenght อย่างไรในแนวโน้มแบบนี้ เชิญชมคลิปนี้
สอนหุ้นออนไลน์Byณัฐวุฒิ บทที่1:รู้จักแนวโน้มขาขึ้นและกลยุทธ์ลงทุนตามแนวโน้มขาขึ้น เนื้อหาประกอบด้วย

-คุณลักษณะสำคัญของหุ้นขาขึ้น
-วิธีดูว่าหุ้นขาขึ้นมีจุดเริ่มต้นอย่างไร
-วิธีดูว่าหุ้นขาขึ้นถึงดอยและหมดรอบแล้ว
-กลยุทธ์Bull Marketในหุ้นขาขึ้น
-ความสำคัญของระบบเทรด Trend Following System
....
อบรมสอนกราฟหุ้นการกุศลที่ มจร และหอการค้าขอนแก่น-งานอบรมกราฟหุ้นมืออาชีพ ที่ มจร วันเสาร์ 24 นี้ จะปิดรับสมัครภายในวันพรุ่งนี้ สอบถามและสมัครด่วน คลิกลิงค์
ส่วนงานอบรมกราฟหุ้นมืออาชีพที่หอการค้าจังหวัดขอนแก่นเป็นเจ้าภาพ ในวันเสาร์ที่ 8 ตุลาคมนี้ ในงานSmart Bussiness Expo 2022 เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และในราคาพิเศษ Early bird ภายในวันที่ 25 กันยายนนี้ คลิกลิ้งค์นี้ เพื่อสมัครนะครับ
https://line.me/ti/g/Ub3XULKDNQ
ทั้ง2งานนี้ ผมบรรยายเต็มวัน 6 ชั่วโมง รายได้ยกให้กับเจ้าภาพ เพื่อดำเนินกิจกรรมสาธารณประโยชน์และสาธารกุศลครับ
งานสอนแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยนัก น่าจะเรียกว่าในรอบ 5 ปี และยังไม่รู้จะมีอีกเมื่อไหร่ ท่านที่สนใจจริงจัง จึงไม่ควรพลาดครับ

วันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2565

ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ Live - เจาะกลุ่มเด่นเน้นตัวมาแรงรอบ 9 เดือน 9

By ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ เลขที่ใบอนุญาต12888

บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษการลงทุนต้นธารคอร์ปอเรชั่น

(ก่อตั้งพศ.2540อยู่ใต้การกำกับกลต.)

2 สิงหาคม 2565

1.วิกฤตป้าแนนเยือนไต้หวันเป็นโอกาสช้อนหุ้น?-วันนี้ตลาดหุ้นเอเชียร่วงแรงราว2ถึง3%เพราะเกิดความตึงเครียดกรณีนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะเดินทางแวะเยือนไต้หวันค่ำวันนี้ ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวของจีนที่ประกาศว่าจะไม่ทนเฉย

2.อย่างไรก็ตามกรณีนี้เป็นเรื่องระยะสั้น ข้ามวันก็คงคลี่คลายแล้ว พอตลาดเปิดมาวันนี้หุ้นตก ก็เลยมีแรงช้อนซื้อดักรออยู่ ตลาดหุ้นไทยก็เลยตกไม่มาก

ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทยหันไปอิงปัจจัยบวกว่า ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยและการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯดูคลายลงแล้ว ทำให้มีการโยกย้ายเงินกลับจากตลาดเงินดอลลาร์และพันธบัตร กลับมายังสินทรัพย์เสี่ยงคือตลาดหุ้น รวมทั้งสินทรัพย์คู่เทียบอย่างทองคำ คริปโต และสกุลเงินฝั่งตรงข้ามกับดอลลาร์ ทำให้ราคาหุ้นไทยหันมาสะท้อนทิศทางบวกมากกว่าความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวัน

3.ตลาดหุ้นไทยจบขาลง กำลังจะขึ้นรอบใหม่ ให้ได้ลุ้นไปขายทำกำไรในรอบวันที่ 9 เดือน 9 โดยรอบนี้ผมมองหุ้นเด้นคือ หุ้นกลุ่มเทคฯที่จะฟื้นโดดเด้นมาก ตอนนี้ตัวที่เล็งไว้เริ่มขยับแล้ว / หุ้นที่จะได้ประโยชน์จากทิศทางเงินบาทแข็ง และคริปโตรอดตายจะกลับมาแรงรอบใหม่/หุ้นtheme reopenที่เพิ่งจะสตาร์ทนับ1ขาขึ้น และปิดท้ายด้วยหุ้นม้ามืด

สมัครร่วมงานสัมมนาออนไลน์ตอนนี้ 


 ชี้เป้า5หุ้นเด่นเล่นให้รวยรอบวันที่9เดือน9 คือ;

*เด่นกลุ่มเทคโนโลยีวิ่งตามหุ้นเทคโลก

*เด่นกลุ่มคริปโตที่จะฟื้นตัววิ่งรอบใหม่

*เด่นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากน้ำมันลงเงินเฟ้อลด

*เด่นกลุ่มที่จะฟื้นตัวreopenที่เพิ่งจะเริ่มต้นมา

*เด่นแบบม้ามืดExclusive


🌹 รับหุ้นเด่น 2 ชุดงานสัมมนาออนไลน์รอบ9เดือน9

ชุดแรก 5 ตัว รับ 8 สค65

ชุดสอง 5 ตัว รับ 28 สค65

💝 สมัครกรุ้ป A-B ท่านจะได้รับ

1.แผ่นสรุปหุ้นเด่น ในกรุ้ปสัมมนาครั้งนี้ 

2.ชมสัมมนา สด และ ย้อนหลังได้

ในกรุ้ปไลน์สัมมนาหุ้นชุดนี้

3.ไฟล์PDFเอกสารสัมมนา 

รับ 29สค65ในกรุ้ปสัมมนาครั้งนี้

❤️ กรุ้ป A แถม.. ข้อ 4-5 

เริ่ม 29สค65 ถึง 29กย65

4. อัพเดทคำแนะนำหุ้นชุดนี้

เมื่อมีสถานการณ์กระทบการขึ้นลงของราคาหุ้น

5.สอบถาม ปรึกษาปัญหาหุ้น 1-2 คำถาม/ท่าน/วัน 

💓 กรุ้ป C รับเพียงข้อ 1-2 

สอบถามเพิ่มเติมที่นี่

https://lin.ee/68hTX4P

วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2565

ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ - ส่องตลาดหุ้นเดือนสิงหาคม 2565 ลุ้นวนลูปรอบขาขึ้นไปถึงวันที่9เดือน9

By ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
เลขที่ใบอนุญาต12888

บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษการลงทุนต้นธารคอร์ปอเรชั่น
(ก่อตั้งพศ.2540อยู่ใต้การกำกับกลต.)

1 สิงหาคม 2565

ถ้าตลาดรอบนี้จะขึ้นไปถึงกลางเดือนกันยายน รอบวันที่9เดือน9 เป้าแรก1620เป้าใหญ่แถว1700 เราควรกำหนดกลยุทธ์อย่างไร? ทั้งหุ้นที่ติดไว้ และการลงทุนรอบนี้

คลิปและบทความเรื่องนี้น่าสนใจ ไม่ใช่เพราะว่ามันมีอะไรใหม่ แต่เพราะว่ามันยืนยันเรื่องเก่า

1.เรื่องเก่าก็คือว่า รอบที่ผ่านมานั้น กองทุนเฮดจ์ฟันด์ได้พากันอิงข่าวร้ายพิบัติภัยทางเศรษฐกิจ (ตั้งแต่เรียกกันพื้นๆว่า Recession เศรษฐกิจถดถอย ไปยังแรงๆที่เรียกว่า เศรษฐกิจโลกจะพินาศ หายนะ รถไฟเบรกแตกกำลังวิ่งชนชานชาลา Perfect storm หรือแล้วแต่จะสรรหาคำมาโปรยหัวให้น่าตกใจ...!) ดังนั้นเฮดจ์ฟันด์จึงมีการโยกย้ายเงินทุนสำคัญๆ เพื่อฟันกำไร คือ





1.1 เทขายสินทรัพย์เสี่ยง หรือทำช็อร์ตเซลสินทรัพย์เสี่ยง อย่างหุ้นโลก ที่นำโดย หุ้นเทคโนโลยีNASDAQ ดาวโจนส์ ดัชนีS&P500 ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นไทยก็ตกตามมาด้วย









การเทขายดังกล่าวทำให้ราคาหุ้นตกหนักมาdiscountข่าวร้ายจนถึงเป้าหมายสำคัญๆกล่าวคือ ดาวโจนส์ลงมาเขตราวๆ29,700จุด หุ้นเทคNASDAQตกมาเขต10,000 S&P500ราวๆ3800จุด หุ้นขนาดใหญ่ในSET50ของตลาดหุ้นไทยราวๆ930-935จุด



1.2พวกสินทรัพย์คู่เทียบกับดอลลาร์อย่างทองคำที่ร่วงลงมาจนถึงเป้าหมายสำคัญเขต1,680$ หรือคริปโตเคอเรนซี่ อย่างBTC ETHที่ร่วงลงมาหนัก บางสกุลอย่างลูน่าก็เล่นกันถึงเจ๊งไปเลย รวมไปถึงสกุลเงินคู่เทียบอย่าง ค่าเงินเยน ยูโร ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงอย่างหนัก แต่ก็อ่อนลงมาถึงเป้าหมายสำคัญแล้ว คือยูโรก็ราวๆ1:1 และค่าบาทก็ลงมาเขตTriple bottomราวๆ36.70บาท/ดอลลาร์

2.หากเราเชื่อในเรื่องที่ว่า ราคาของตลาดหุ้นตลาดทุนตลาดเงินในวันนี้เป็นตัวสะท้อนของการกะเก็งคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจจริงที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วง6เดือน หรือ 1 ปีข้างหน้า และนักค้า(trader)เป็นผู้เล่นรายสำคัญ มีพวกเฮดจ์ฟันด์มีอิทธิพลในการชี้นำ ก็แสดงว่า

2.1 ระยะที่ผ่านมานี้ ราคาในตลาดได้สะท้อนข่าวร้ายข่าวหายนะข่าวเศรษฐกิจโลกพินาศไปมากพอสมควรแล้ว คือค่าเงินดอลลาร์ก็แข็งขึ้นไปถึงจุดพีคแล้ว บอนด์ยีลด์ก็เช่นกัน ในขณะที่สินทรัพย์เสี่ยงคือตลาดหุ้นก็ลงไปจนผ่านจุดต่ำสุด(Bottom out)ไปแล้ว รวมทั้งสินทรัพย์คู่เทียบอย่าง ทองคำก็ลงไปBottom outแล้วเช่นกัน

2.2ในเวลาล่าสุดนี้ เราเลยได้เห็นสิ่งที่ผมเคยคาดการณ์เอาไว้คือ

*พวกค่าเงินดอลลาร์เลยพีคและกำลังมีแนวโน้มอ่อนลง รวมทั้งบอนด์ยีลด์ก็พีคและกำลังมีแนวโน้มขาลง

*มีการโยกเงินจากดอลลาร์และบอนด์มาช้อนซื้อสินทรัพย์คู่เทียบ ที่เราจะได้เห็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องคือ ทองคำ คริปโต สกุลเงินคู่เทียบจะแข็งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเยน หยวน ยูโร ไทยบาท

*สำหรับตลาดหุ้นนั้นก็ฟื้นจากจุดBottomไปเป้าหมายสำคัญคือ ดาวโจนส์จะฟื้นไปด่านสำคัญราวๆ33,000+/- NASDAQราวๆ12800-13000จุด S&P500ราวๆ4400จุด(จากนั้นค่อยตามไปอัพเดตกันครับว่าจะผ่านด่านที่ส่านี้ได้ไหม หากได้ก็จะเป็นreversalกลับตัวเป็นขาขึ้นรอบใหญ่ หากไม่ก็แสดงว่าเป็นแค่reoundแล้วลงรอบใหม่)

3.สำหรับตลาดหุ้นไทยนั้น ผมได้อธิบายเรื่องแนวโน่มใหญ่(Major trend) กับแนวโน้มรอง(Minor trend) และแนวโน้มย่อยๆ ซึ่งขะอธิบายซ้ำแบบย่อในที่นี้คือ


3.1แนวโน้มรอง Minor trendของตลาดหุ้นไทยในรอบตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงเวลานี้สิ้นเดือนกรกฎาคม เป็นขาลง(Downtrend) หรือแกว่งตัวลงSideway down) เป็นการตกพักฐานในคลื่นที่ 4


แสดงว่าแนวโน้มใหญ่(Major trend)ของตลาดหุ้นไทยในระยะกลางยาวนั้น เป็นเพียงการตกพักฐานคลื่น4ของขาขึ้น เมื่อจบการตกพักฐานแล้วก็จะกลับไปสู่แนวโน้มขาขึ้นไปคลื่น5ต่อไป ทั้งนี้สะท้อนจาก

ดัชนีหุ้นSET50 ซึ่งสะท้อนแนวโน้มของหุ้นขนาดใหญ่ในSET50 ที่เป็นที่นิยมของกองทุนไทยและกองทุนฝรั่งนั้น ที่ตกมาเที่ยวนี้ก็ยังไม่ได้เสียหายหรือเสียทรงขาขึ้นของMajor trendนะครับ มันตกมาถึงกรอบล่างราวๆเขต930-935จุด ไม่หลุดจากเขตนี้แล้วก็ฟื้นตัวกลับ ก็คงติดตามดูว่ารอบนี้จะไปได้เกินเขต1000จุดหรือไม่ หากได้ก็จะไปต่อกรอบบนราวๆ1050จุด+/-

ส่วนดัชนีSET รวมนั้น เป็นขาลง หรือSideway downในMinor trendมาตั้งแต่ต้นปี รวมถึงเวลานี้ก็7เดือน ก็แน่นอนว่าคนในตลาดย่อมsufferกับการติดหุ้น  พอร์ตแดง จิตวิทยาตลาดย่ำแย่ และกลายเป็นpessimism(หรือเป็นนักลงทุนที่มองโลกในแง่ร้าย อ่อนไหวต่อปัจจัยลบได้ไว สนองต่อข่าวร้ายได้เร็ว และไม่มีความหวังในทางบวก) ตอนนี้ดัชนีSETกำลังฟื้นตัวขึ้น มีแนวต้านเป้าหมายสำคัญด่านแรกราวๆ1595-1600จุด และแนวต้านDowntrendสำคัญราวๆ1620จุด+/-

ซึ่งหากดัชนีSETรอบนี้ขึ้นไปเกิน1595 หรือ1620จุดได้ ก็อาจได้เห็นการขึ้นไปรอบใหญ่ที่อาจจะมีเป้าหมายขึ้นไปราวๆ1650-1700จุดได้ต่อไป โดยอาจขึ้นไปถึงราวๆกลางเดือนกันยายนนี้ ส่วนจะไปได้เกินนั้นไหม ค่อยไปอัพเดตกันอีกทีข้างหน้าครับ

ซึ่งผมหวังว่าตลาดจะไม่ไปผันผวนขึ้นลงตามDELTAตัวเดียว ที่จะกลายเป็นเครื่องมือปั่นลาก หรือทุบตลาด เพื่อหวังปั่นหรือทุบตลาดตามการทำShort sell covering ของพวกกองทุนเก็งกำไรเหล่านี้

หมายเหตุ: (คลิปนี้ผมอธิบายเรื่องความแตกต่างของMajor & Minor trendเพิ่มเติมครับ https://www.youtube.com/watch?v=Q8ZqXsyqQEA)

4.แนวโน้มตลาดช่วงนี้ไปถึงกลางเดือน9 และกลยุทธ์ที่ควรทำ

*หุ้นไทยน่าจะฟื้นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นโลก

*หุ้นใหญ่ในSET50 เกิดสัญญาณการกลับตัวรอบใหม่แล้ว จะมีเป้าหมายขึ้นไปด่านถัดไปเขต965-970 กรอบเป้าหมายหลักบริเวณ1000จุด+/-


*หุ้นไทยดัชนีSETรวม เกิดสัญญาณการกลับตัวแล้ว จะขึ้นไปตามลำดับคือ ด่านแรก1585-1595 ด่านสำคัญถัดไปแนวต้านdowntrendเขต1620+/- หากผ่านได้ก็จะวกกลับไปเขต1650/1700จุดได้ต่อไป

*คาดว่าตลาดจะวกกลับขึ้นไป กินเวลาราว1เดือน อาจจะขึ้นไปพีครอบนี้ในราวกลางเดือนกันยายนนะครับ ดังนั้นควรจะหวังการวกขึ้นไปราวๆเกือบ1700จุดได้(แต่ต้องผ่านด่านสำคัฐด่านแรกราวๆ1620จุดให้ได้ด้วย)

*ดังนั้นก็ควรใช้กลยุทธ์ดังนี้นะครับ

1.ถือหุ้นที่มี หรือติดไว้เดิมไปทดสอบเป้าหมายด่านต่างๆ ด่านแรกเขต1585-1595จุด ด่านสำคัญคือเขต1620จุด+/- และด่านถัดไปราวๆ1700จุด คาดว่าจะใช้ระยะเวลาราวถึงกลางเดือนกันยายน...หากจะขายหุ้นก็ไปรอขายตามเป้าหมายดังกล่าวนี้

2.หากติดหุ้นไว้สูงในรอบก่อนๆและอยากซื้อหุ้นแก้ไขพอร์ตก็แนะนำให้ทำในกรอบเป้าหมาย และกรอบเวลาดังกล่าวนี้ได้ครับ

3.หากจะซื้อหุ้นรอบนี้ ก็ดูหุ้นแนะนำนะครับ (จะอัพเดตตารางสำหรับมสมาชิกในวันนี้ครับ)

โชคดีมีกำไรปลอดภัยในการลงทุนทุกท่านครับ

...

ติดตามเราช่องทางอื่นๆได้ที่

Facebook : http://fb.com/tontancorp

Youtube : https://goo.gl/J9u1jm

สอบถามข้อมูล

Line@ : https://goo.gl/ybfAvJ